“จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตั้งวิทยาลัย
ที่เล่าเรียนพระไตรปิฎกแลวิชาชั้นสูงขึ้น ๒ สถาน...
อีกสถานหนึ่งเป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย
ได้ตั้งไว้ที่วัดมหาธาตุราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวงนี้
มีนามว่ามหาธาตุวิทยาลัย
ได้เปิดการเล่าเรียนแต่วันที่ ๘ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร์ ศก ๑๐๘ สืบมา
แต่สังฆิกเสนาสน์สำหรับมหาธาตุวิทยาลัยนี้
ยังไม่เป็นที่สมควรแก่การเล่าเรียน…
เมื่อการบำเพ็ญพระราชกุศลส่วนนั้นเสร็จแล้ว
จะได้ทรงพระราชอุทิศถวายถาวรวัตถุนี้เป็นสังฆิกเสนาสน์
สำหรับมหาธาตุวิทยาลัย เพื่อเป็นที่เล่าเรียน
พระปริยัติสัทธรรมแลวิชาชั้นสูงสืบไปภายหน้า
พระราชทานเปลี่ยนนามใหม่ว่า
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เพื่อให้เป็นที่เฉลิมพระเกียรติยศสืบไป…”
ที่เล่าเรียนพระไตรปิฎกแลวิชาชั้นสูงขึ้น ๒ สถาน...
อีกสถานหนึ่งเป็นที่เล่าเรียนของพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย
ได้ตั้งไว้ที่วัดมหาธาตุราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวงนี้
มีนามว่ามหาธาตุวิทยาลัย
ได้เปิดการเล่าเรียนแต่วันที่ ๘ พฤศจิกายน รัตนโกสินทร์ ศก ๑๐๘ สืบมา
แต่สังฆิกเสนาสน์สำหรับมหาธาตุวิทยาลัยนี้
ยังไม่เป็นที่สมควรแก่การเล่าเรียน…
เมื่อการบำเพ็ญพระราชกุศลส่วนนั้นเสร็จแล้ว
จะได้ทรงพระราชอุทิศถวายถาวรวัตถุนี้เป็นสังฆิกเสนาสน์
สำหรับมหาธาตุวิทยาลัย เพื่อเป็นที่เล่าเรียน
พระปริยัติสัทธรรมแลวิชาชั้นสูงสืบไปภายหน้า
พระราชทานเปลี่ยนนามใหม่ว่า
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
เพื่อให้เป็นที่เฉลิมพระเกียรติยศสืบไป…”
“มหาธาตุวิทยาลัยนี้
ให้ตั้งขึ้นโดยราชูปถัมภกบำรุงพระบรมพุทธศาสนา
เป็นที่สั่งสอนพระบาลีคัมภีร์พระไตรปิฎก พุทธพจนภาษิต
แก่ภิกษุสามเณรฝ่ายคณะมหานิกายและคฤหัสถ์
ตามแต่มีความศรัทธาจะศึกษาสืบเสาะข้อวัตรปฏิบัติพุทธภาษิต
ซึ่งจะได้เป็นคณาจารย์สืบไป”
พันธกิจสถาบันพระไตรปิฎกศึกษา
“การวางแผน พัฒนา ส่งเสริม อนุรักษ์
วิจัย เผยแพร่ และให้บริการวิชาการ
ด้านพระไตรปิฎกและคัมภีร์พุทธศาสน์”
Previous
Next